วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

ได้ใช้แล้วไม่แพ้ ตอน มูสล้างหน้า Kuron ตอนที่ 3


จะกลายเป็นมหากาพย์ซะแล้วมั้ยเรา 555+ มาว่ากันเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วไม่แพ้กันต่อนะคะ วันนี้เราจะยังอยู่กับ มูสล้างหน้า Kuron กับแปรงล้างหน้าที่สั่งผ่านเว็บไซด์มาลองกันค่ะ

หลังจากที่ได้แปรงล้างหน้าอัตนโมัติซึ่งขายคู่มากับมูสล้างหน้าของ Kuron มาแล้ว แอดมินก็ใช้เลยฮ่ะ ปรากฎว่าแค่คืนแรกที่ใช้ เช้ามาหน้าขึ้นตุ่ม ๆ เล็ก ๆ ซะงั้น ถึงจะไม่มีอาการคล้ายสิวจะผุดขึ้นมา แต่มันก็ฟ้องว่า ผิวหน้าอาจจะคายเคืองบางอย่าง


สามวันถัดมาแอดมินก็เลยหยุดใช้เครื่องล้างกับมูสของ Kuron ไปโดยปริยายค่ะ กำลังจะถอดใจแล้วเชียว ถ้าไม่เผอิญว่า เช้าวันนึง หลังจากลงรองพื้นที่ผิวหน้าก่อนทางแป้งเรียบร้อย แอดมินก็มองหน้าสบู่ที่จะมาล้างคราบครีมรองพื้นที่เหลืออยู่ใจกลางอุ้งมือออก (เสียนิสัยนิดหน่อยค่ะ ปั๊มครีมรองพื้นออกมาเกินกว่าที่ใช้งานจริงทุกวันเลย) มองไปมองมา เอิ้ววว...เอาเจ้ามูสล้างหน้าของ Kuron นี่แหละฟระ ไหน ๆ ก็จะไม่ใช้มันอยู่ละ (หะแรกคิดว่าแพ้) ก็เลยปั๊มมูสของ Kuron มาจึ๊กหนึ่ง ถู ๆ ๆ วน ๆ ๆ ไปเรื่อย ๆ เสร็จแล้วก็ล้างออก แว่บแรก...เอ๊ะ..ทำไมคราบครีมรองพื้นหายเกลี้ยงเลย แอดมินแทบไม่เชื่อสายตา เพราะปกติถึงบีบโฟมล้างหน้าสมูทอีล้าง ก็ยังเป็นคราบอยู่ อย่ากระนั้นเลย ลองใช้ผ้าเช็ดดูสิว่ามีคราบเหลือมั้ย....เช็ดปั๊บ..โฮ้วว..ไม่มีเหลือเลยค่ะ คราบเคริบที่เคยมีหายเกลี้ยง นี่หมายความว่า..ไอ้เจ้ามูสของ Kuron นี่ล้างครีมรองพื้นออกด้วยหรือ ??


อเมซิ่งไปหลายวิฮ่ะ...ดังนั้นพอตกค่ำลง หลังจากเช็ด คสอ.ออกจากใบหน้าเรียบร้อยแล้ว แอดมินก็เลยตัดสินใจหยิบมูส Kuron ขึ้นมาใช้ล้างแทน โฟมล้างหน้าสมูทอี ด้วยคิดว่า..มันน่าจะล้างได้สะอาดเอี่ยมอ่องกว่า ซึ่งแม่เจ้า....พอใช้ตัวมูสเดี่ยว ๆ โดยไม่ต้องอาศัยแปรง..ขอบอกว่า มันเริ่ดมาก...ลองใช้โทนเนอร์ชุบสำลีเช็ดอีกรอบ ไม่มีคราบเครื่องสำอางอะไรเหลือเลย สำลีขาวโบ๊ะ ประทับใจสุด ๆ ทีนี้ก็ต้องลองดูล่ะ ว่าหากใช้ต่อเนื่องกันแล้ว จะแพ้หรือไม่ (ปกติแอดมินแพ้ง่ายค่ะ เปลี่ยนเครื่องสำอางอะไรก็มักจะแพ้ แถมเป็นเซ็บเดิร์มอีก จะใช้อะไรที คิดแล้วคิดอีก)


ตอนนี้ใช้มาประมาณ 1 สัปดาห์แล้วค่ะ ขอบอกว่าเป็นมูสล้างหน้าที่ประทับใจมาก..ชอบสุด ๆ ชอบถึงขนาดว่าเมื่อวานไปเดินสอยมาอีก 2 ขวดจากร้านวัตสัน ซึ่งขอบอกว่าถูกกว่าที่หาได้ในเว็บน่ะนะคะ (ตามเว็บขวดละ 390 บาทค่ะ แต่ที่วัตสันแค่ 290 เท่านั้นเอง เริ่ดมาก..) คิดว่าจะใช้ไปเรื่อย ๆ ค่ะ นานๆ จะเจอตัวทำความสะอาดผิวที่เหมาะกับเราซะที แถมราคาก็ถูกกว่าสมูทอีโฟมด้วย ขวดนึง ใช้เช้า-เย็น น่าจะใช้ได้ประมาณเกือบ ๆ เดือนน่ะนะคะ ก็หวังว่าเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาตัวโฟมล้างหน้าที่ล้างหน้าได้สะอาดหมดจด ไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง จะได้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นอีกตัวหนึ่ง

แล้วกลับมาพบกับผลิตภัณฑ์ที่แอดมินได้ใช้แล้วไม่แพ้ในตอนต่อไปนะคะ




วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557

ได้ใช้แล้วไม่แพ้ ตอน มูสล้างหน้า Kuron ตอนที่ 2


หลังจากที่อ่านรีวิวการใช้แปรงล้างหน้าอัตโนมัติของ Kuron มาแล้ว แอดมินก็เริ่มมองหาแหล่งที่จะซื้อมาลองค่ะ ตอนแรกว่าจะแวะเวียนไปเดินดูตามห้าง แต่ดูแล้วแถวต่างจังหวัดที่แอดมินอยู่ ก็คงจะหาซื้อได้ยากพอสมควร สุดท้ายแอดมินก็ไปพบไอ้เจ้าเครื่องตัวนี้ที่ขายพร้อมมูสล้างหน้าอยู่ในเซ็ตเดียวกันที่ขายผ่านระบบออนไลน์ของเว็ปดังเว็ปหนึ่ง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบราคาดูแล้วค่อนข้างถูกกว่าการไปเดินซื้อเองตามห้าง (ปกติเห็นว่าตามห้างขายอยู่ที่ราคาชุดละ พันกว่าบาท แต่แอดมินสั่งจากเว็ปนี้ด้วยราคาแค่ชุดละ 990 บาทเท่านั้นเอง) ก็เลยลองตัดสินใจสั่งซื้อ รออยู่ประมาณ 3 วันค่ะ และแล้วของที่สั่งก็มาถึง


คืนแรกที่ได้ของมา แอดมินลองเลยค่ะ แบบว่าเห่อของใหม่ 555 ซึ่งหลังจากดูรีวิวตามที่ต่าง ๆ แล้วก็ใช้งานไม่ยากนะคะ คือให้ใส่ถ่านที่เจ้าแปรงที่มีหัวเป็นขนแปรงนุ่ม ๆ และหมุน ๆ ได้ 4 ก้อน (คล้าย ๆ แปรงสีฟันไฟฟ้านึกออกมั้ยคะ) โดยปั๊มมูสของ Kuron ที่อยู่ในกล่องลงบนหัวปั๊มที่จุ่มน้ำให้เปียกไว้แล้วลงไปด้วย แอดมินปั๊มมูสออกมา 2 ครั้งค่ะ จากนั้นก็เปิดเครื่องแล้วก็เริ่มทำการล้างหน้าด้วยไอ้เจ้าเครื่องตัวนี้เลย (แต่ขอบอกว่าถ้าใครแต่งหน้าครบเครื่อง ทั้งกันแดด รองพื้น เครื่องสำอางต่าง ๆ ควรใช้คลีนซิ่งก่อนทำการล้างหน้าด้วยมูสและเครื่องล้างของ Kuron นะคะ) วิธีการล้างก็ไม่ยากค่ะ แค่นำแปรงค่อย ๆ ทาบบนผิวเบา ๆ แล้วก็เคลื่อนหัวแปรงไปตามจุดต่าง ๆ บนผิวหน้า ใช้เวลาไม่ควรเกิน 30 วินาทีในแต่ละโซน (หน้าผาก,จมูก,คาง,แก้ม) จากนั้นจึงปิดเครื่อง ล้างหัวแปรงด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าก็เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ

หลังจากลองล้างหน้าดูในคืนแรก...คงต้องบอกว่ายังไม่เห็นผลอะไรค่ะ แต่รู้สึกแสบ ๆ ผิวเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแอดมินกดขนแปรงแรงไปรึเปล่า จากนั้นจึงโบกฟิสิโอ เจล ครีมก่อนนอน เพื่อบำรุงผิว..เช้าขึ้นมา เอ๊ะ..ทำไมรู้สึกผิวมันไม่ค่อยเรียบ (ปกติถ้าล้างด้วยมือธรรมดากับสมูทอี เบบี้เฟซโฟม ผิวจะเรียบลื่นกว่าค่ะ) มันแลดูเป็นตุ่ม ๆ T^T เอาแล้วสิ แอดมินแพ้มูส Kuron หรือแปรงมันบาดหน้าไปรึเปล่าเนี่ย

เข็ดค่ะเข็ด..สามวันต่อจากนั้น แอดมินไม่แตะมูสกับเครื่องตัวนี้เลย....เดี๋ยวลองมาดูกันนะคะ ว่าทำไมจู่ ๆ แอดมินถึงลุกขึ้นมา รีวิว ว่าใช้มูสตัวนี้แล้วไม่แพ้ กลับมาติดตามกันต่อในตอนหน้านะคะ





ได้ใช้แล้วไม่แพ้ ตอน มูสล้างหน้า Kuron ตอนที่ 1


สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ สมาชิกบล็อกเซ็บเดิร์มทุกท่าน สำหรับบล็อกนี้ส่วนใหญ่แล้ว แอดมินจะนำข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลรักษาตัวเองสำหรับผู้ที่เป็นโรคเซ็บเดิร์ม หรือที่เราเรียกกันว่า "โรคผิวหนังอักเสบ" นั่นเองน่ะนะคะ ซึ่งโรคนี้จริง ๆ แล้วก็จัดอยู่ในกลุ่มโรคภูมิแพ้ผิวหนังซึ่งมักแสดงอาการของโรคออกมาได้เรื่อย ๆ เมื่อได้รับแรงกระตุ้นหรือที่เราเรียกว่าเป็นโรคเรื้อรังนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าปัจจัยกระตุ้นให้อาการเซ็บเดิร์มกำเริบนั้น เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ,อาหาร,การใช้ชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่สภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง เครียด ขาดการพักผ่อน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงกันได้ยากพอสมควรในโลกปัจจุบันนี้

สำหรับการดูแลรักษาไม่ให้โรคเซ็บเดิร์มกำเริบนั้น นอกจากดูแลรักษาสุขภาพกายภายในให้แข็งแรงแล้ว การดูแลรักษาสภาพผิวภายนอกก็มีส่วนสำคัญมากเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เสี่ยงต่อการกระตุ้นการเกิดโรค หรือการหลีกเลี่ยงปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ในส่วนของการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์นั้น ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เป็นโรคนี้มักต้องดูแลและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติอ่อนโยนเป็นพิเศษค่ะ ดังนั้น แอดมินจึงจะขอนำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่แอดมินทดลองใช้หรือใช้ได้ผลดี และไม่เกิดอาการแพ้มารีวิวให้ได้รับชมกันทีละตัวนะคะ ซึ่งวันนี้จะเริ่มกันที่ตัวที่ช่วยทำความสะอาดผิวหน้ากันก่อน นั่นก็คือ มูสล้างหน้า Kuron ค่ะ


ทำไมถึงเลือกรีวิว มูสล้างหน้า Kuron เป็นอันดับแรก ?

จริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้แอดมินใช้โฟมล้างหน้าชนิดไม่มีฟอง ยี่ห้อ สมูทอี เบบี้ เฟซ โฟม หลอดสีเขียวมาก่อนค่ะ และเป็นสาวกของสมูทอีมาหลายปีมาก เนื่องจากยังไม่เจอโฟมหรือสบู่ล้างหน้ายี่ห้อไหนที่จะมาแทนที่เจ้าตัวนี้ได้ เรียกว่าไปใช้ครีมโฟมยี่ห้อไหน ๆ ประเดี๋ยวก็ต้องวกกลับมาตายรังอีก

แล้วเจ้ามูสล้างหน้า Kuron ดีอย่างไร ทำไมแอดมินถึงได้เลือกหยิบมาใช้แทนเจ้าโฟมล้างหน้าสมูทอี ที่มีดีกรี เซฟโหมดที่สุดของตัวเองได้

ย้อนกลับไปเมื่ือสองอาทิตย์ที่แล้วค่ะ เนื่องจากนอกจากแอดมินจะมีปัญหาของโรคเซ็บเดิร์มเป็นทุนอยู่แล้ว ยังมีปัญหาเรื่องสิวน้อยใหญ่ที่คอยผลัดกันมากวนใจอยู่เรื่อย ๆ อีกด้วย ส่วนหนึ่งที่แอดมินสังเกตก็คือ อาจจะเป็นเพราะแอดมินล้างหน้าไม่สะอาดนั่นเอง แม้ว่าจะใช้คลีนซิ่ง วอเตอร์ตัวหนึ่งที่ช่วยเช็ดล้างเครื่องสำอางต่า ง ๆ ออกได้ถึง 70-80 เปอเซ็นต์แล้ว แต่แอดมินก็คิดว่ามันคงยังไม่สะอาดเพียงพอ เพราะปัญหาสิวก็ยังคงกลับมากวนใจได้ทุกบ่อย ปัญหาสิวส่วนใหญ่ที่แอดมินเป็นนั่น จะเป็นสิวที่เรียกว่า สิวอุดตันค่ะ คือมีอาการบวม ปูด เจ็บ และเม็ดใหญ่พอสมควร ซึ่งกว่าจะหายมันก็ได้ทิ้งร่องรอยสิวเอาไว้เพียง..เรียกว่าพอจุดนี้หาย จุดนั้นก็เป็นอีก ร่องรอยอารยธรรมแดง ๆ ด่าง ๆ ก็เลยไม่มีวันว่างเว้นไปจากใบหน้าของแอดมินซะที

จนกระทั่งมาวันหนึ่ง แอดมิน search หาข้อมูลเกี่ยวกับการล้างหน้าให้สะอาดล้ำลึกและช่วยให้การขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพด้านบนออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดอาการสิวอุดตันเพิ่มเติมค่ะ แล้วชื่อและภาพรวมไปถึงการรีวิว เจ้าเครื่องล้างหน้าอันโนมัติที่มีลักษณะเป็นหัวแปรงกับมูสล้างหน้าของ Kuron ก็โผล่ขึ้นมาให้ได้พบ หลังจากกดเข้าไปอ่านรีวิวสัก 2-3 ชั่วโมงก็พบว่า ฟีดแบ็กของไอ้เจ้าเครื่องล้างหน้ากับมูสของ Kuron นี้ค่อนข้างดีค่ะ คือเค้าเคลมกันว่ามันช่วยให้การล้างหน้าทำได้อย่างหมดจดยิ่งขึ้น ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ลดการเกิดสิวอุดตัน แอดมินก็กิเลสขึ้นสิคะ..อย่ากระนั้นเลย ลองหาดูดีกว่าว่ามันซื้อกันที่ไหน...

ชักเริ่มเล่ายาวเกินไปละ...เดี๋ยวเรามาอ่านกันต่อถึงประสิทธิภาพและผลการใช้งานของเจ้าเครื่องล้างหน้า+มูสของ Kuron ตัวนี้กันนะคะ





วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557

วิธีรักษาอาการเซ็บเดิร์ม (seb derm) ด้วยตัวเอง ตอนที่ 2


การรักษา โรคเซ็บเดิร์ม ซึ่งจัดเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งซึ่งเมื่อเป็นแล้วมักจะมีอาการกำเริบขึ้นมาได้อีกเป็นระยะ ๆ เมื่อร่างกายไม่แข็งแรงและพบกับปัจจัยที่เข้ามากระตุ้นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่ร้อนจัดเกินไป หนาวจัดเกินไป การดื่มหรือกินอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่รบกวนผิวมากเกินไป หรือแม้แต่อยู่เฉย ๆ บางครั้ง..มันก็ยังเป็นได้อีกนั้น ถือเป็นภาระกิจกู้ผิวที่รบไม่มีวันสิ้นสุดของหลายๆ คนน่ะนะคะ >.<

สำหรับตัวแอดมินเอง หลังจากที่เริ่มรู้ตัวว่ามีอาการของโรค เซ็บเดิร์ม บริเวณใบหน้า ใต้จมูก รอบริมฝีปาก ซึ่งมีอาการแสบร้อน,คัน,แดง ผิวลอกเป็นขุย มีสะเก็ดขาวคลุมอยู่บริเวณที่มีรอยโรค แถมบางครั้งยังมีน้ำเหลืองไหลซึมตลอดเวลา ซึ่งนอกจากจะทำให้เสียบุคลิกแล้ว ยังรบกวนการดำเนินชีวิตปกติของตัวแอดมินด้วย เพราะมันคันยิบ ๆ แสบยิบ ๆ ตลอดเวลา บางคืนถึงขั้นนอนไม่ได้เลยก็มี

ในระยะแรกของการรักษาโรคนี้ แอดมินใช้วิธีหยุดใช้เครื่องสำอางบางประเภท ก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ เรามาดูผลิตภัณฑ์ที่แอดมินเลือกใช้เพื่อการรักษาโรคเซ็บเดิร์มที่ได้ผลกับตัวเองกันนะคะ


ช่วงที่ 1 ของการรักษา เมื่ออาการของโรคเป็นค่อนข้างมาก

ช่วงเช้า

  1. ล้างหน้าให้สะอาดด้วยโฟมล้างหน้าสมูทอี เบบี้เฟซโฟม หลอดเขียว โดยล้างอย่างเบามือ ลูบไปตามแนวรูขุมขน
  2. เนื่องจากอยู่ในช่วงที่โรคกำเริบ จึงต้องทายา Topicorte 0.25% บาง ๆ บริเวณรอยโรค
  3. ทาครีมบำรุงผิว ฟิสิโอ เจล ครีม เอไอ (Physio gel AI cream) บาง ๆ ให้ทั่วผิวหน้า
  4. ทาครีมกันแดด สเปคตร้าแบน spf30 สำหรับผิวแพ้ง่าย (Spectra ban spf30 sensitive skin)
  5. ใส่หมวกป้องกันแสงแดด หลีกเลี่ยงแดดจัด ทานน้ำเยอะ ๆ เพื่อให้ผิวไม่แห้งตึง
ช่วงกลางคืน

  1. เนื่องจากทาครีมกันแดด จึงต้องเช็ดหน้าด้วยคลีนซิ่ง วอเตอร์ก่อนค่ะ แอดมินเลือกใช้ยี่ห้อ ไบโอเดอม่า ฝาชมพู เช็ดเบา ๆ ตามแนวรูขุมขนก่อน 2 รอบ
  2. ล้างหน้าให้สะอาดด้วยโฟมล้างหน้าสมูทอี เบบี้เฟซโฟม หลอดเขียว
  3. ทายา  Topicorte 0.25% บาง ๆ แล้วตามด้วยน้ำมันมะพร้าวสะกัดเย็น ทาแล้วนอนเลยค่ะ (สำหรับคนที่เป็นสิว หน้ามันมาก ให้โบกครีมฟิสิโอเจลครีม เอไอแทนนะคะ)
แอดมินทำเช่นนี้อยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ อาการก็เหมือนจะดีขึ้น แต่พอแอดมินเผลอไปดื่มไวน์ น้ำอัดลม หรือโดนแดดจัด ๆ (ช่วงนั้นหน้าหนาวค่ะ อากาศกลางคืนกับตอนเช้าเย็นและแห้งมาก) อาการก็จะกลับมาเป็นอยู่อีก 2-3 รอบ ซึ่งทุกครั้ง แอดมินก็อาศัยทายา  Topicorte 0.25% เป็นระยะ ๆ ครั้งละไม่เกิน 3 วัน เพื่อไม่ให้ผิวติดสเตียรอยด์ซึ่งผสมอยู่ในตัวยา

เมื่ออาการเริ่มดีขึ้น แอดมินก็เริ่มหาครีมที่จะมาช่วยลดการติดการทายา Topicorte 0.25% ลงค่ะ โดยได้ตัวครีมที่มีชื่อว่า Ezerra มาใช้แทน เจ้าตัวนี้ขาดไม่ได้นะคะ ให้ลงครีม Ezerra ก่อนบาง ๆ บริเวณที่มักจะมีโรคกำเริบประจำ ก่อนทาครีมบำรุง ฟิสิโอเจบ ครีม เอไอทุกครั้งเช้าเย็น

ทุกวันนี้อาการของโรคสงบลงค่ะ มีบางครั้งเท่านั้นที่รู้สึกแสบคันยิบ ๆ แต่พอล้างหน้าแล้วโบกครีมบำรุง+Exerra ไว้ อาการก็หายไป


ปัจจุบันนี้แอดมินสามารถทาแป้งแต่งหน้าได้ตามปกติค่ะ แต่พยายามจะเลือกใช้ครีมและเครื่องสำอางต่าง ๆ ที่อ่อนโยนที่สุด เพื่อไม่ให้ผิวหน้ากลับมามีอาการอีก ซึ่งบล็อกในตอนหน้า แอดมินจะนำเอาเครื่องสำอางต่าง ๆ ที่เลือกใช้แล้วไม่แพ้ ไม่ก่อให้เกิดสิว หรืออาการเซ็บเดิร์มมารีวิวให้ดู เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผิวที่มีปัญหาเซ็บเดิร์มอย่างเรา ๆ กันนะคะ

แล้วกลับมาพบกันใหม่ในครั้งหน้าค่ะ