วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557

วิธีรักษาอาการเซ็บเดิร์ม (seb derm) ด้วยตัวเอง ตอนที่ 2


การรักษา โรคเซ็บเดิร์ม ซึ่งจัดเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งซึ่งเมื่อเป็นแล้วมักจะมีอาการกำเริบขึ้นมาได้อีกเป็นระยะ ๆ เมื่อร่างกายไม่แข็งแรงและพบกับปัจจัยที่เข้ามากระตุ้นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่ร้อนจัดเกินไป หนาวจัดเกินไป การดื่มหรือกินอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่รบกวนผิวมากเกินไป หรือแม้แต่อยู่เฉย ๆ บางครั้ง..มันก็ยังเป็นได้อีกนั้น ถือเป็นภาระกิจกู้ผิวที่รบไม่มีวันสิ้นสุดของหลายๆ คนน่ะนะคะ >.<

สำหรับตัวแอดมินเอง หลังจากที่เริ่มรู้ตัวว่ามีอาการของโรค เซ็บเดิร์ม บริเวณใบหน้า ใต้จมูก รอบริมฝีปาก ซึ่งมีอาการแสบร้อน,คัน,แดง ผิวลอกเป็นขุย มีสะเก็ดขาวคลุมอยู่บริเวณที่มีรอยโรค แถมบางครั้งยังมีน้ำเหลืองไหลซึมตลอดเวลา ซึ่งนอกจากจะทำให้เสียบุคลิกแล้ว ยังรบกวนการดำเนินชีวิตปกติของตัวแอดมินด้วย เพราะมันคันยิบ ๆ แสบยิบ ๆ ตลอดเวลา บางคืนถึงขั้นนอนไม่ได้เลยก็มี

ในระยะแรกของการรักษาโรคนี้ แอดมินใช้วิธีหยุดใช้เครื่องสำอางบางประเภท ก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ เรามาดูผลิตภัณฑ์ที่แอดมินเลือกใช้เพื่อการรักษาโรคเซ็บเดิร์มที่ได้ผลกับตัวเองกันนะคะ


ช่วงที่ 1 ของการรักษา เมื่ออาการของโรคเป็นค่อนข้างมาก

ช่วงเช้า

  1. ล้างหน้าให้สะอาดด้วยโฟมล้างหน้าสมูทอี เบบี้เฟซโฟม หลอดเขียว โดยล้างอย่างเบามือ ลูบไปตามแนวรูขุมขน
  2. เนื่องจากอยู่ในช่วงที่โรคกำเริบ จึงต้องทายา Topicorte 0.25% บาง ๆ บริเวณรอยโรค
  3. ทาครีมบำรุงผิว ฟิสิโอ เจล ครีม เอไอ (Physio gel AI cream) บาง ๆ ให้ทั่วผิวหน้า
  4. ทาครีมกันแดด สเปคตร้าแบน spf30 สำหรับผิวแพ้ง่าย (Spectra ban spf30 sensitive skin)
  5. ใส่หมวกป้องกันแสงแดด หลีกเลี่ยงแดดจัด ทานน้ำเยอะ ๆ เพื่อให้ผิวไม่แห้งตึง
ช่วงกลางคืน

  1. เนื่องจากทาครีมกันแดด จึงต้องเช็ดหน้าด้วยคลีนซิ่ง วอเตอร์ก่อนค่ะ แอดมินเลือกใช้ยี่ห้อ ไบโอเดอม่า ฝาชมพู เช็ดเบา ๆ ตามแนวรูขุมขนก่อน 2 รอบ
  2. ล้างหน้าให้สะอาดด้วยโฟมล้างหน้าสมูทอี เบบี้เฟซโฟม หลอดเขียว
  3. ทายา  Topicorte 0.25% บาง ๆ แล้วตามด้วยน้ำมันมะพร้าวสะกัดเย็น ทาแล้วนอนเลยค่ะ (สำหรับคนที่เป็นสิว หน้ามันมาก ให้โบกครีมฟิสิโอเจลครีม เอไอแทนนะคะ)
แอดมินทำเช่นนี้อยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ อาการก็เหมือนจะดีขึ้น แต่พอแอดมินเผลอไปดื่มไวน์ น้ำอัดลม หรือโดนแดดจัด ๆ (ช่วงนั้นหน้าหนาวค่ะ อากาศกลางคืนกับตอนเช้าเย็นและแห้งมาก) อาการก็จะกลับมาเป็นอยู่อีก 2-3 รอบ ซึ่งทุกครั้ง แอดมินก็อาศัยทายา  Topicorte 0.25% เป็นระยะ ๆ ครั้งละไม่เกิน 3 วัน เพื่อไม่ให้ผิวติดสเตียรอยด์ซึ่งผสมอยู่ในตัวยา

เมื่ออาการเริ่มดีขึ้น แอดมินก็เริ่มหาครีมที่จะมาช่วยลดการติดการทายา Topicorte 0.25% ลงค่ะ โดยได้ตัวครีมที่มีชื่อว่า Ezerra มาใช้แทน เจ้าตัวนี้ขาดไม่ได้นะคะ ให้ลงครีม Ezerra ก่อนบาง ๆ บริเวณที่มักจะมีโรคกำเริบประจำ ก่อนทาครีมบำรุง ฟิสิโอเจบ ครีม เอไอทุกครั้งเช้าเย็น

ทุกวันนี้อาการของโรคสงบลงค่ะ มีบางครั้งเท่านั้นที่รู้สึกแสบคันยิบ ๆ แต่พอล้างหน้าแล้วโบกครีมบำรุง+Exerra ไว้ อาการก็หายไป


ปัจจุบันนี้แอดมินสามารถทาแป้งแต่งหน้าได้ตามปกติค่ะ แต่พยายามจะเลือกใช้ครีมและเครื่องสำอางต่าง ๆ ที่อ่อนโยนที่สุด เพื่อไม่ให้ผิวหน้ากลับมามีอาการอีก ซึ่งบล็อกในตอนหน้า แอดมินจะนำเอาเครื่องสำอางต่าง ๆ ที่เลือกใช้แล้วไม่แพ้ ไม่ก่อให้เกิดสิว หรืออาการเซ็บเดิร์มมารีวิวให้ดู เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผิวที่มีปัญหาเซ็บเดิร์มอย่างเรา ๆ กันนะคะ

แล้วกลับมาพบกันใหม่ในครั้งหน้าค่ะ